หลังโควิด รีเฟรชร่างกายที่ไหนดี ?

ถ้าการระบาดของโรคโควิด – 19 หมดลงเมื่อไร ร่างกายและหัวใจคงเรียกร้องการออกไปเที่ยว เพราะสภาพร่างกายและจิตใจของใครหลายคนในช่วงที่ผ่านมาคงห่อเหี่ยวน่าดู บางคนต้องกักตัวอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยม บางคนต้องอยู่แต่บ้านหรือออกไปทำงาน ซื้อข้าวซื้อของแล้วต้องรีบกลับมา ต้องมีรู้สึกโหยหาการเที่ยวอย่างแน่นอน

และเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 ค่อย ๆ กลับมาดีขึ้น คาดว่าในอีกไม่นาน เราจะได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติแน่นอน แต่จะเป็นการใช้ชีวิตในรูปแบบ New Normal เพื่อยกระดับสุขภาพชีวิตที่ดี และระหว่างที่รอสถานการณ์ดีขึ้น มาลองวางแผนจัดทริปเที่ยวกันก่อนไหม ว่าพอหมดโควิด – 19 เมื่อไร เราจะพาร่างกายและหัวใจออกโลดแล่นไปรีเฟรชที่ไหนกันดี ?

8 ไอเดีย จัดทริปเที่ยว พาร่างกายไปรีเฟรช

1. นอนพักผ่อนโฮมสเตย์ ช่วยให้ร่างกายหายจากอาการเหนื่อยล้า

: การได้ออกจากห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ออกไปเปลี่ยนบรรยากาศนอนโฮมสเตย์ ในบรรยากาศดี ๆ ท่ามกลางธรรมชาติแสนเงียบสงบ ค่อย ๆ ปล่อยให้ร่างกายได้พักผ่อนใช้ชีวิตช้า ๆ ดื่มด่ำกับสายลมและแสงแดด สูดอากาศบริสุทธิ์ เพียงเท่านี้ จะช่วยให้ร่างกายของเราได้หายจากอาการเหนื่อยล้าและได้มีความสุขกับวันพักผ่อน

2. เที่ยวชมธรรมชาติ พักผ่อนกลางป่า ได้สูดอากาศบริสุทธิ์

: การเที่ยวป่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี เนื่องจากเป็นสถานที่ธรรมชาติ ปลอดโปร่ง ไม่แออัด ผู้คนไม่พลุกพล่าน ที่สำคัญเงียบสงบและร่มเย็น ที่สำคัญเป็นแหล่งอากาศดี หากได้พาร่างกายของเรามาพักผ่อน สูดอากาศดีให้เต็มปอด เมื่อร่างกายเราได้ฟอกปอด สุขภาพก็จะดี จิตใจก็มีความสุข

3. เข้าวัดทำบุญ ช่วยชะโลมจิตใจให้ผ่องใส

: การเข้าวัด ทำบุญ จะช่วยปลอบประโลมจิตใจ เพราะเมื่อเราย่างก้าวเข้าในพื้นที่วัดที่มีความสงบ ได้เห็นดอกไม้ ธูปเทียน ความส่องสว่างไสวของเปลวเทียน เสียงระฆังที่ถูกตีด้วยแรงศรัทธา หรือการที่ได้เห็นผู้คน มานั่งสมาธิ ปฏิบัติทำ ได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศอันสงบเสงี่ยมและเงียบสงบ จิตใจเราจะไม่ฟุ้งซ่าน ปลอดโปร่งและผ่องใส

4. เที่ยวชิลทุ่งนา ช่วยให้ร่างกายสดชื่น

: การที่ได้มาเยือนสถานที่ธรรมชาติที่มีสีเขียวอย่างทุ่งนา ฟังเสียงนกเสียงกา เสียงใบไม้ ใบหญ้าและต้นข้าวที่พลิ้วไหว ค่อย ๆ ซึมซับบรรยากาศช้า ๆ สููดไอดินกลิ่นรวงข้าว ก็จะช่วยให้ร่างกายของเราสดชื่นได้ และที่สำคัญ การได้มาอยู่ท่ามกลางสีเขียว ช่วยกระตุ้นให้รู้สึกสดชื่น ลดความเหน็ดเหนื่อย คลายความตึงเครียด ความตื่นตระหนก และความวิตกกังวลลงไปอีกด้วย

5. เที่ยวอุทยาน เล่นน้ำตก ช่วยให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย

: การที่ไปเที่ยวชมอุทยานความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ ได้ไปฟังเสียงน้ำตกที่ไหลจากหน้าผา ฟังเสียงน้ำจากลำธาร พาร่างกายและจิตใจ ไปพักผ่อน นั่งชิล ชมธรรมชาติสุดแสนจะรื่นร่มย์ ก็จะช่วยให้เราผ่อนคลายได้มาก

6. เที่ยวป่าชายเลน ศึกษาธรรมชาติ ช่วยให้คลายเครียด
: การเที่ยวป่าชายเลน นอกจากที่เราจะได้ข้อมูลความรู้ในเรื่องของพันธุ์ป่าไม้ และสัตว์น้ำแล้ว การได้มาเดินชมป่า มองดูใบไม้ ต้นไม้ และสัตว์ในป่าชายเลนเพลิน ๆ ก็ช่วยให้คลายเครียดได้

7. เที่ยวทะเล ดำน้ำ ดูปลา ช่วยให้ชีวิตฮาเฮ

: เขาว่ากันว่า หากมีเรื่องทุกข์ใจ ให้ไปที่ทะเล เพราะทะเลจะได้ซัดเซพาทุกอย่างออกไป คงจะเป็นเรื่องจริงอย่างว่าไว้ เพราะทะเลเป็นอีกหนึ่งจุดหมายของการพักผ่อน ที่ใครหลายคนอยากจะมาชาร์ตแบตร่างกาย ท่ามกลางคลื่น สายลมและแสงแดด มาลิ้มรสชาติสด ๆ ของอาหารทะเล เล่นกิจกรรมทางน้ำต่าง ๆ เพื่อสร้างสีสันและความสนุกสนานให้แก่ชีวิต แถมการมาทะเลยังสามารถรักษาสุขภาพได้ด้วยน้ำทะเล แสงแดด และหาดทราย เลยทำให้ถ้าหากได้มาทะเลแล้ว ชีวิตจะฮาเฮเป็นอย่างมาก

8. เที่ยวภูเขา จะช่วยให้เรารักธรรมชาติ

: หากใครที่ชอบเที่ยวภูเขาหรือยังไม่เคยได้สัมผัสการเที่ยวบนภู บนดอยอย่างจริงจัง การเที่ยวภูเขาก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ขอแนะนำ เพราะจะได้สัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ทั้งป่าไม้ ต้นหญ้า ดอกไม้ พื้นดิน หรือแม้กระทั่งท้องฟ้าและอากาศดี ๆ เราก็สามารถดื่มด่ำได้อย่างมีความสุข ยิ่งพอเราได้อยู่ในบรรยากาศแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ในยามเช้าได้เห็นแสงพระอาทิตย์ขึ้น มีหมอกลอยบาง ๆ ตอนเย็นอากาศหนาว ตอนค่ำได้เห็นดาวบนท้องฟ้าอย่างที่ไม่เคยได้เห็นในเมืองใหญ่ จนเราหลงรักธรรมชาติ อยากจะอยู่แบบนี้ไปนาน ๆ เลย

และถึงแม้ว่าการเที่ยวหลังจากนี้ อาจจะไม่สามารถเที่ยวได้สุดเหวี่ยง หรืออิสระได้เท่าเมื่อก่อน แต่ถ้าหากได้ลองออกไปเที่ยวบ้าง หรือมองหาที่เที่ยวใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยได้ไป ลองวางแพลนดู ชวนคนที่คุณอยากให้ไปด้วย คงจะช่วยให้ร่างกายและจิตใจของเรารีเฟรชได้ไม่น้อย และที่สำคัญเมื่อเที่ยวแล้ว ต้องลืมดูแลตัวเอง สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อย ๆ และเว้นระยะห่าง เพื่อความปลอดภัยในการเที่ยว