100 ชุมชน รื่นรมย์และเรียนรู้

100 ชุมชน รื่นรมย์และเรียนรู้

ดาวน์โหลด :

โปรด
เพื่อดาวน์โหลด

ในฐานะที่เป็นคนไทย เราเข้าใจความเป็นไทยเพียงใด และเข้าใจอย่างไร คำถามอาจดูจริงจัง แต่การได้มาวึ่งคำตอบมิได้หมายความว่าจะต้องเคร่งเครียดถึงขนาดนั้น เพราะเราไม่ได้กำลังจะแนะนำคุณให้อ่านหนังสือประวัติศาสตร์หรือพงสาวดาร หากแต่เป็นการ “เชื้อเชิญ” ให้ออกเดินทางเพื่อสัมผัสอีกรสชาติ วึ่งแตกต่างไปจากรูปแบบที่เคยคิดกันว่าการท่องเที่ยวเป็นได้เพียงเท่านั้น

ในหมู่บ้านเล้กๆ ที่โอบล้อมด้วยทิวเขา คุณต้องตื่นเช้ากว่าแสงแรก และกำลังเดินตามแม่ใหญ่ไปเก็บใบคราม วึ่งจะได้คุณภาพดีที่สุดก่อนรับแดดเช้า จากนั้นต้องเจียดเวลาไปวัด แล้วกลับมาเริ่มต้นกระบวนการทางชีวเคมีของการหมักหมากไม้ เพื่อให้เกิดสีธรรมชาติ น้ำในหม้อครามสีคล้ำออกเหลืองเหลือบๆ ทำให้เส้นฝ้ายค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีครามน้ำเงินสดใสเมื่อนำขึ้นมาบิดและสะบัดให้ถูกอากาศ

ลวดลายต่างๆ ที่เคยมีอยู่แต่ในจินตนาการกลับกลายเป็นจริงขึ้นมาได้ เมื่อได้เรียนรู้เทคนิคการทอแบบต่างๆ คือ จก ยก ชิด ขัด คุณอาจไม่ใช่นักออกแบบหรือทำงานประยุกต์ศิลป์ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในชุมชนที่หลุบอยู่ในภูห่างไกลกลับให้ความกระจ่าง และอธิบายแง่มุมบางอย่างที่ชีวิตในเมืองใหญ่ไม่อาจให้ได้

การเรียนรู้เป็นกฎข้อแรกของความเข้าใจ ความรื่นรมย์เป็นกำข้อสำคัญที่ขขับเคลื่อนการเรียนรู้ เมื่อเราเรียนรู้ได้อย่างรื่นรมย์ ก็จะนำมาซึ่งความเข้าใจที่ “ลึกซึ่ง” ถึงแก่นแท้

ในแต่ละชุมชนนั้นมีรากเหง้าความเป็นมา สภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดทักษะความสามารถไปพร้อมกับศรัทธา ความเชื่อ สิ่งเหล่านี้ได้ยึดโยงให้แต่ละบ้านค่อยๆถักทอสอดสานจนเกิดเป็นขนบนิยมและความเชี่ยวชาญเฉพาะขึ้นมา ความรู้มากมายได้เติบโต แตกยอด และส่งแรงบันดาลใจแก่กัน

หมู่บ้านเล็กๆ อันห่างไกลแห่งอีสานได้หลายสิบหมู่บ้าน แม้จะมีความแป็นเลิศ ในการทอผ้าไหมเหมือนกัน หากแต่ละชุมชนก็มีลายเฉพาะของตนเอง มีการเลือกใช้สีที่เป็นเอกลักษณ์ บ้างได้แรงบันดาลใจจากหมากไม้ชายรั้วหรือภูมิทัศน์ที่แวดล้อมบางแห่งค้นพบจากเสาหินทรายอันกลมกลึงที่ประดับประสาทขอม

แชร์ให้เพื่อน

Share

ปรับขนาดตัวอักษร

บทความที่เกี่ยวข้อง