Beyond luxury travel – Koh Chang Yacht Club

Share:

Related articles

Bangkok – Kanchanaburi – Classic Car | 3 Days 2 Nights

Bangkok – Kanchanaburi – Classic Car | 3 Days 2 Nights   Step back in time in timeless style. Indulge in a royal journey from Bangkok to Kanchanaburi — dine aboard a luxury river cruise, ride in a classic car to ancient temples, and unwind in a floating villa under starlit skies. Every moment is crafted for elegance.   #ClassicLuxuryEscape #TimelessThailand #LuxylyVoyage#LuxylyVoyageThailand #ElegantEscapes #ThailandInLuxury#LuxuryTravelThailand #DiscoverThailandInStyle#ElegantEscapes #ThailandLuxuryLifestyle#ExquisiteThailand #ThailandInLuxury#CuratedForConnoisseurs #TimelessThailand#RefinedJourneys

ROMANCE in thailand

ประเทศไทยนั้นโรแมนติกกว่าที่คุณเคยคิดนะ ลองนึกภาพได้ชมสายหมอกยามเช้า พร้อมกอดคนรักไว้ที่ภาคเหนือ การใช้เวลาส่วนตัวสองต่อสองในพูลวิลล่าริมทะเลตะวันออก เดินชมและกราบวัดเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเทพฯ หรือการล่องเรือยอชต์ชมพระอาทิตย์ตกในทะเลอันดามันกับคนรัก เชื่อว่ายังมีอีกหลากหลายกิจกรรมสุดโรแมนติกในไทยที่จะทำให้ความรักของคุณยิ่งหวานขึ้นในทุก ๆ วัน ไม่เพียงแค่นั้น ประเทศไทยมีอีกหลากหลายสถานที่และไอเดียสำหรับงานแต่งงานที่จะไม่มีวันลืม ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรูริมแม่น้ำ ชายหาดลมโชยเบา ๆ ไปจนถึงคฤหาสน์สุดอลังการ พร้อมรองรับทุกความต้องการ ชวนมาสำรวจแรงบันดาลใจแห่งรัก และอีกหลากหลายกิจกรรมสุดโรแมนติก ในคู่มือฉบับนี้ Thailand is romantic—more than you ever imagined. From soaking in the misty morning breeze while cuddling your love in the north, to sharing intimate moments in a private pool villa                   in the east. And from walking the sacred steps of a revered temple in Bangkok, to sailing into     the sunset on a yacht in the Andaman Sea—Thailand is filled with moments made for love. And when it comes to saying

⛰️🌫️⛰️เปิดลายแทง 7 จุดชมทะเลหมอกหน้าฝน ไม่ต้องไปไกลถึงภาคเหนือก็ฟินได้! ⛰️🌫️⛰️

ฤดูฝนในเดือนกันยายน 2025 นำพาความชุ่มชื้นและความงดงามของทะเลหมอกมาให้ทั่วประเทศไทย ไม่ว่าคุณจะอยู่ภาคไหนก็สามารถสัมผัสประสบการณ์ธรรมชาติอันน่าทึ่งได้โดยไม่ต้องเดินทางไกลถึงภาคเหนือ จากยอดเขาในเพชรบูรณ์ไปจนถึงผืนป่าตะวันออก มาค้นพบ 7 จุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดในหน้าฝนนี้กัน!     ภาคเหนือ เขาตะเคียนโง๊ะ (เพชรบูรณ์) ตั้งอยู่ที่อำเภอเขาค้อ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการกางเต็นท์และชมทะเลหมอกหนาที่ปกคลุมยอดเขาในยามเช้า 📃 ประวัติ : เดิมเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่ชาวบ้านพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว 📌 กิจกรรม : เดินป่าชมวิว, ถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น 🌟 เคล็ดลับ : ไปถึงก่อน 5 โมงเช้า, พกเสื้อกันฝนและถุงนอน   ภูชี้ฟ้า (เชียงราย) ยอดเขาสูงสุดในเทือกเขาดอยผาหม่น อยู่ใกล้ชายแดนไทย-ลาว ทะเลหมอกหนาและพระอาทิตย์ขึ้นที่มองเห็นได้ชัดเจน 📃 ประวัติ: เป็นจุดยุทธศาสตร์ในอดีต ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง 📌 กิจกรรม: เดินเทรล, ถ่ายรูปชายแดน 🌟 เคล็ดลับ: จองที่พักล่วงหน้า 1-2 เดือนและพกกล้องกันน้ำ ดอยเสมอดาว (น่าน) ลานหญ้ากว้างบนดอยที่สูง 1,600 เมตร เหมาะสำหรับการนอนดูดาวและตื่นมาชมทะเลหมอก 📃 ประวัติ: ชื่อ “เสมอดาว” มาจากการมองเห็นดาวที่ชัดเจนในอดีต 📌กิจกรรม: เดินป่า, ปิคนิค 🌟 เคล็ดลับ: เตรียมไฟฉาย, เสื้อกันหนาว, และอาหารแห้ง    ภาคกลาง/ตะวันตก   บ้านอีต่อง-เหมืองปิล็อก (กาญจนบุรี)   หมู่บ้านในเขตอำเภอทองผาภูมิ ท่ามกลางสายหมอกและป่าเขา มีประวัติศาสตร์เหมืองแร่ในอดีต 📃 ประวัติ: เคยเป็นแหล่งเหมืองทองของคนจีนฮ่อ 📌กิจกรรม: ชมน้ำตก, เดินเล่นในหมู่บ้าน 🌟 เคล็ดลับ: ใช้รถ 4WD และจองโฮมสเตย์ล่วงหน้า   อุทยานแห่งชาติพุเตย (สุพรรณบุรี)   อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 200 กม. จุดชมทะเลหมอกที่สูง 600 เมตร