ปักหมุด 6 จุดฮีลใจ ให้ธรรมชาติโอบกอดที่พังงา

️ อยากตื่นขึ้นมา แล้วเจอธรรมชาติดีๆ ทุกวัน

ชวนไปฮีลใจ ให้ธรรมชาติโอบกอดที่ #พังงา

 

     #พังงา หนึ่งในที่เที่ยวทะเล ของใครหลายๆ คน ที่ต้องปักหมุดไปเที่ยวกัน และยังเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวให้เลือกมากมาย ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในพื้นที่จังหวัดพังงา สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอด 365 วัน ️ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งหาดทรายขาว ชายทะเลสวย #แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ #แหล่งท่องเที่ยวชุมชน แหล่งตระเวนชิมอาหาร รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม บอกเลยว่าเป็นจังหวัดที่ไม่ควรพลาดต้องปักหมุดไว้เลย อย่ารอช้าตามเราไปชมพิกัดสวยๆ ซึ่งนอกจากทะเลแล้ว ที่เที่ยวธรรมชาติอื่นๆ ก็สวยไม่แพ้กัน จะมีที่ไหนบ้าง #กดเเชร์ไว้ แล้วตามไปปักหมุดกันได้เลย!!

ปักหมุด 6 จุดฮีลใจ ให้ธรรมชาติโอบกอดที่พังงา Ramada Khaolak

 

รีสอร์ทเงียบสงบที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เหมือนได้พักผ่อนในหาดส่วนตัว

 

รีสอร์ทริมชายหาดออกแบบร่วมสมัยที่รายล้อมไปด้วยอุทยานแห่งชาติและอยู่ใกล้กับเกาะต่างๆ ️ เต็มไปด้วยพรรณไม้เขตร้อนเขียวชอุ่ม บรรยากาศสบายๆ เหมือนได้มาบ้านพักตากอากาศ ให้คุณได้เปลี่ยนบรรยากาศมาพักผ่อนในบรรยากาศสบายๆ ชาร์จพลังเข้าร่างกายได้อย่างเต็มที่!

 

️ ห้องพักของที่นี่มีทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่ , , , , สำหรับห้องพักของที่นี่ถูกออกแบบอย่างมินิมอลและมีสไตล์ทั้งยังเห็นวิวทะเลทุกห้อง เหมาะสำหรับการหนีความวุ่นวายมา ให้คุณหยิบงานมานั่งทำริมระเบียงหรือจะนอนมองวิวชิลล์ๆ ไปกับวิวสวยงามตรงหน้า

 

ห้องอาหารที่นี่มีถึง 4 แบบ ได้แก่ ‘ ‘ เริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใสแบบด้วยบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าสไตล์อเมริกัน ‘ ‘ ‘ เป็นบาร์และร้านอาหารที่ผสมผสานอาหารไทยและอาหารนานาชาติ ‘ ‘ เป็นคาเฟ่และร้านกาแฟ และ ‘ ‘ นั่งจิบเครื่องดื่มในสระน้ำใต้ต้นไม้แบบเขตร้อน

 

✨ ไฮไลต์ของที่นี่คือ ความโรแมนติกเหมือนเป็นสวรรค์ริมชายหาด ให้เราได้ผ่อนคลายอย่างมีสไตล์จิบค็อกเทลเบาๆ ที่บาร์ริมสระ เดินเล่นลัดเลาะไปตามชายหาดที่สวยงาม และมีคลาสทำอาหารให้เราได้ร่วมกิจกรรม เป็นรีสอร์ทที่เหมาะกับทั้งคู่รักและครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันได้อย่างคุ้มค่า

 

️ พิกัด: https://maps.app.goo.gl/FbYMBXZ8fF4MVmDF8?g_st=com.google.maps.preview.copy

ราคาเริ่มต้นต่อคืน 2,000 บาท

☎️ โทรศัพท์: 076 427 777

เว็บไซต์: http://www.ramadakhaolak.com

  

 

ปักหมุด 6 จุดฮีลใจ ให้ธรรมชาติโอบกอดที่พังงา Khaolak Merlin

 

รีสอร์ทสไตล์รักษ์ธรรมชาติ ที่มีทั้งน้ำตกและทะเลในที่เดียวกัน

 

#ที่พักสบายไม่ทำลายธรรมชาติ ทางรีสอร์ทได้รักษาต้นไม้ใหญ่เอาไว้เพื่อความร่มรื่น มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ แขกที่เข้าพักจะได้รับการฟื้นฟูจากธรรมชาติในที่ๆ ทะเลและป่าฝนมาบรรจบกันอย่างสวยงาม

 

️ ห้องพักของที่นี่เเบ่งออกเป็น 4 แบบหลัก คือ , , และแบบ มีห้องอาหาร 2 ที่คือ ‘ ‘ ให้บริการอาหารเช้าและมื้อค่ำ’ ‘ ให้บริการอาหารกลางวันและมื้อค่ำในบรรยากาศโรแมนติก และมีโชว์ให้คุณได้ชมในบางช่วง นอกจากนี้ยังมีอีก 3 บาร์ คือ‘ ‘ ได้นั่งจิบเครื่องดื่มริมหาด ‘ ‘ ให้นั่งชิลในสระน้ำ และ ‘ ‘ ให้คุณจิบเครื่องดื่มในบรรยากาศสุดไพรเวท ครบครันทั้งอาหารและเครื่องดื่มให้บริการตลอดทั้งวัน

 

ในรีสอร์ทมีการจัดสวนเป็นสวนเขตร้อนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งรักษาสภาพแวดล้อมป่าดั้งเดิมของเขาหลักเอาไว้ ดังนั้นนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติต้องห้ามพลาด ที่จะเดินชมภายในรีสอร์ทให้ทั่วพื้นที่ถึงจะคุ้มค่าที่ได้มาเยือน

 

อีกหนึ่งไฮไลต์คือสระน้ำที่ถูกออกแบบให้ไหลผ่านลดหลั่นเป็นชั้นคล้ายสายน้ำตก รู้สึกราวกับว่าได้พักผ่อนอยู่ในป่าจริงๆ และเพียงไม่กี่ก้าวเราก็จะเจอกับชายหาดเขาหลักเหมือนมีหาดส่วนตัวให้พักผ่อน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องพืชและสัตว์นานาชนิด เพราะเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว มีกิจกรรมส่องสัตว์ให้ได้ตื่นเต้นหากคุณเป็นสายรักธรรมชาติจะต้องได้รับครบทุกอารมณ์อย่างแน่นอน

 

️ พิกัด: https://maps.app.goo.gl/n3ErF4EJ3S3GFmDRA?g_st=com.google.maps.preview.copy

ราคาเริ่มต้นต่อคืน 1,000 บาท

☎️ โทรศัพท์: 076 428 300

เว็บไซต์: http://www.merlinkhaolak.com

 

 

ปักหมุด 6 จุดฮีลใจ ให้ธรรมชาติโอบกอดที่พังงา Paradise เกาะยาว

เกาะยาว

 

พักผ่อนในรีสอร์ทหนึ่งเดียวแห่งเกาะยาวน้อย บูติครีสอร์ทที่อยู่ทางตอนเหนือของเกาะยาวน้อยที่มีท่าเรือและชายหาดส่วนตัวเพียงแห่งเดียวบนเกาะ ถูกตกแต่งด้วยสไตล์ทรอปิคอล ที่หยิบเอาวัสดุธรรมชาติต่างๆ มาใช้ภายในรีสอร์ท มีห้องพักทั้งหมด 5 แบบทั้งวิวสวนและทะเล เป็นสถานที่พักผ่อนบรรยากาศเงียบสงบเหมาะกับสาย ที่อยากมาเติมพลังชีวิตด้วยการปล่อยกาย ปล่อยใจไปกับท้องฟ้า สายลม และเสียงคลื่นทะเล ☁️

 

️ ที่นี่มีห้องอาหาร 2 ที่ โดยที่แรกจะเป็น ‘ ‘ ให้เราได้นั่งทานอาหารทะเลริมหาด เท้าแตะทรายอย่างผ่อนคลาย หรือจะแวะชิม ‘ ‘ ห้องอาหารแบบอิตาเลี่ยนแท้ๆ ที่ตั้งอยู่ริมหาดกับเมนูที่หลากหลาย โดยทางห้องอาหารใส่ใจเป็นพิเศษกับความสดสะอาดของอาหาร มีบาร์ 2 บาร์ คือ ‘ ‘ เสิร์ฟทั้งเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ และมีน้ำผลไม้ให้ได้นั่งชิลล์ได้ทั้งวัน หรือจะนั่งที่ ‘ ‘ พักผ่อนกับบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินแสนโรแมนติก

 

ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า เกาะยาวน้อยจึงยังเป็นถิ่นที่อยู่ของนกเงือก ถ้าโชคดีเราจะได้เห็นนกเงือกบินไปมา และสำหรับสายกิจกรรมไม่ต้องกลัวว่าจะเบื่อเพราะมีบริการทั้งสปา โยคะ ว่ายน้ำ พายเรือคายัค ปั่นจักรยานรอบเกาะ และเดินป่า

 

อีกหนึ่งจุดเด่นคือ การดูพระอาทิตย์ตกพร้อมซุ้มอาหารค่ำที่มีทั้งอาหารคาวหวาน โดยมีเชฟคอยบริการปิ้งย่างให้ เหมือนอยู่สวรรค์บนดินเลยทีเดียว ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและลืมความเครียดไปได้จนหมดสิ้น

 

️ พิกัด: https://maps.app.goo.gl/LKcwWM5XR4EYB3FA8?g_st=com.google.maps.preview.copy

ราคาเริ่มต้นต่อคืน 2,000 บาท

☎️ โทรศัพท์: 076 584 450

เว็บไซต์: http://www.paradise-kohyao.com

ปักหมุด 6 จุดฮีลใจ ให้ธรรมชาติโอบกอดที่พังงา น้ำตกวังเคียงคู่

น้ำตกวังเคียงคู่

 

ล่องแพไม้ไผ่ใน #น้ำตกวังเคียงคู่ สามารถนั่งได้ 2-3 คน ต่อลำ หรือจะลองเล่นน้ำในน้ำตกธรรมชาติให้ร่างกายได้สัมผัสกับความเย็นฉ่ำสดชื่น ยิ่งถ้าได้ลงเล่นน้ำกับเพื่อนๆ ก็ได้อารมณ์ความสนุกสนานกันอย่างเต็มที่ หรืออยากจะมาพักผ่อนแบบคู่รักก็การันตีความโรแมนติกแบบ 5 ดาวไปเลย!

 

คลองวังเคียงคู่ ต้นน้ำมาจากภูเขาในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู ไหลลงสู่คลองลำรูใหญ่ ผ่านน้ำตกวังเคียงคู่ ระยะทางล่องแพ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ40 นาที ระหว่างทางบรรยากาศร่มรื่น สายน้ำใสจนเห็นพื้น สะอาดไหลเย็น และมีจุดสำหรับเล่นน้ำได้ตลอดแนว น้ำไม่ลึกและไม่เชี่ยวมาก สามารถล่องแพได้อย่างปลอดภัยตลอดทั้งปี

 

การจัดกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่ ทำให้ชาวบ้านมีส่วนร่วม มีงานทำ มีการกระจายรายได้ และยังเป็นการอนุรักษ์และดูแลธรรมชาติน้ำและผืนป่าไปพร้อมกัน เนื่องจากชาวบ้านยังใช้น้ำในการอุปโภคบริโภค ภายในหมู่บ้านยังมีกิจกรรมขับ กิจกรรม การนั่งช้าง และยังเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ หาดเขาหลัก ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลทับละมุ

 

และต้องไม่พลาดอาหารพื้นเมืองที่มีบริการ ทั้งเมนูอาหารตามสั่งและอาหารชุดเซ็ตให้ได้เลือกรับประทานกันอย่างอิ่มอร่อย สามารถเที่ยวได้ทั้งปี เวลาที่ควรไปล่องแพคือ 09.00 น. หรือ 15.00 น. เนื่องจากสภาพอากาศจะไม่ร้อนมากจนเกินไป ไม่มีรถประจำทางเข้าสู่ตัวน้ำตก ควรขับรถมาเองหรือเรียกแพให้ออกไปรับ แม้ไม่ใช่เขตอุทยาน ไม่มีค่าเข้าชม แต่ต้องช่วยกันรักษาความสะอาด เพื่อให้มีพื้นที่สวยงามไว้ให้เที่ยวชมกันได้อีกต่อไป

 

️ พิกัด: https://maps.app.goo.gl/UCoX6Aa9MGEkjjxH9?g_st=com.google.maps.preview.copy

⏰ เวลาให้บริการ เปิดทุกวัน 08.30 – 17.00 น.

ค่าบริการ ลำละ 500 บาท / 2 ท่าน

☎️ โทรศัพท์: 095 410 1988

เว็บไซต์: http://www.facebook.com/KomolCorner

 

 

ปักหมุด 6 จุดฮีลใจ ให้ธรรมชาติโอบกอดที่พังงา จุดชมวิวเกาะเสม็ดบางซี

จุดชมวิวเกาะเสม็ดนางชี

 

#เสม็ดนางชี เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดของอ่าวพังงา ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลุดออกจากชีวิตประจำวันอันจำเจ มาสู่การผจญภัยอันน่าตื่นตา ได้สัมผัสกับจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนยอดเขา มองเห็นภาพความงามของธรรมชาติอันกว้างไกล สลับกับวิวของอ่าวพังงา ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งมองภาพวาดธรรมชาติจากศิลปินระดับโลก! ️

 

จุดเด่นของที่นี่คือ ความเป็นสุดยอดวิวพ้อยท์ที่เราสามารถชมวิวทิวทัศน์ของเกาะแก่งต่างๆ ภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ในยามพระอาทิตย์เริ่มเปล่งแสง เป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจมากๆ โดยนักท่องเที่ยวสามารถจองที่กางเต้นท์ ️ เพื่อรอดูทางช้างเผือกยามค่ำคืนยาวไปจนถึงพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าได้เลย รับรองว่าคุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอน

 

หลังจากดูพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ก็ยังแหล่งท่องเที่ยวอันซีนใกล้กับเสม็ดนางชี เช่น ‘ทะเลแหวกบ้านหินร่ม‘ หากสังเกตจากบริเวณจุดชมวิวจะเห็นจุดกองหินที่หน้าตาคล้ายร่ม ที่นั่นจึงเรียกว่า ‘ท่าเรือบ้านหินร่ม‘ นอกจากการทำอาชีพประมงพื้นบ้านแล้ว ชาวบ้านยังมีอาชีพให้บริการเรือนำเที่ยว เพื่อพานักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมยังเกาะแก่งต่างๆ ภายในอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาอีกด้วย

 

มีบริการรถสองแถวรับส่ง ขึ้น-ลง 60 บาท / คน เสียค่าบำรุงสถานที่ 30 บาท / คน ช่วงเวลาที่เหมาะจะไปเยือน ช่วงเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น เส้นทางการเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวเสม็ดนางชี อาจไม่ได้ลำบากมากนัก แต่ควรเตรียมของจำเป็นต่างๆ ไปให้พร้อม เช่น ยากันยุง, ขนม, น้ำและเครื่องดื่มต่างๆ

 

นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่น่าสนใจอยู่ใกล้กับ #จุดชมวิวเสม็ดนางชี อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ท่าเรือบ้านหินร่ม ท่าเรืออาบแสงจันทร์ เขาพระอาดหนุ่ม เป็นอีกสเน่ห์ของพังงา ที่ไม่ว่าใครไปชมต่างก็ต้องหลงใหลและอยากกลับไปเที่ยวซ้ำอีกแน่นอน

 

️ พิกัด: https://maps.app.goo.gl/xhWZvTVz2HdNJinVA?g_st=com.google.maps.preview.copy

 
ปักหมุด 6 จุดฮีลใจ ให้ธรรมชาติโอบกอดที่พังงา เรอดังซีฟู้ด

เรอดัง ซีฟู้ด

 

#เรอดัง ตั้งอยู่ริมถนนตรงข้ามที่ทำการตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา เป็นร้านอาหารเล็กๆ ที่มีบรรยากาศและรสชาติแบบดั้งเดิม วัตถุดิบของทางร้านสดใหม่เพราะตำแหน่งที่ตั้งอยู่ใกล้กับทะเล เน้นการปรุงรสแบบจัดจ้านด้วยเครื่องแกงใต้ ทำให้อาหารทุกเมนูเป็นที่กล่าวขานของผู้มาเยื่อนทุกคนว่า ‘สุดยอด‘ ⭐️

 

️ ร้านอาหารใต้สไตล์พื้นบ้านที่ตกแต่งแบบเรียบง่าย แต่เป็นที่รู้กันในหมู่คนท้องถิ่นว่าอาหารทะเลสดๆ รสชาติดี ราคาเป็นมิตรต้องที่นี่ ร้านนี้เจ้าของเป็นพ่อครัว แม่ครัวเอง จึงมั่นใจได้ในคุณภาพวัตถุดิบ ฝีมือการปรุงที่เด็ดขาด และการต้อนรับที่อบอุ่นเป็นมิตร

 

แม้ว่าร้านจะมีการตกแต่งและการจัดจานอย่างเรียบง่าย แต่อาหารกลับมีรสชาติโดดเด่น ปรุงสดใหม่จานต่อจาน เมนูเด็ดคืออาหารทะเลรสชาติต้นตำรับปักษ์ใต้แท้ๆร้านคัดสรรวัตถุดิบสดๆ ที่เพิ่งจับวันต่อวัน อย่างปลาเก๋าแดงผัดมะระ และผัดใบเหลียงกุ้งสด หมูทอดเคย แกงส้มปลากระพงยอดมะพร้าว แถมยังมีเมนูอื่นๆ อีกมากมายซึ่งเครื่องแกงของทางร้านก็ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของเมืองพังงา

 

ร้านคุณภาพดี ไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่หรือตกแต่งสวยหรูเสมอไป เพราะมาตรฐานความอร่อย ความสะอาด และการรักษาคุณภาพเอาไว้ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ร้านประสบความสำเร็จ ใครมีแพลนไปเที่ยวเขาหลักอยากแนะนำให้ลองไปชิม #เรอดังซีฟู้ด

 

️ พิกัด: https://maps.app.goo.gl/UhjaD26isbroXBzh7?g_st=com.google.maps.preview.copy

⏰ เวลาให้บริการ เปิดทุกวัน 10.30 – 15.00 น. / 18.00 – 21.00 น.

☎️ โทรศัพท์: 085 691 5821

เว็บไซต์: http://www.facebook.com/เรอดังซีฟู้ดอาหารพื้นบ้าน

 

 

#พังงา ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่มีนักเดินทางจากทั่วโลกแวะเวียนมาตลอดทั้งปี #อยากชวนไปสัมผัสเสน่ห์ของพังงา ชมทิวทัศน์ที่สวยงามเหมือนถูกโอบกอดด้วยธรรมชาติและดื่มด่ำกับวิถีชีวิตของผู้คน ที่จะช่วยปลอบโยนใจที่เหนื่อยล้า ให้กลับมาสดใสมีชีวิตชีวาราวกับว่าได้ถูกชาร์จพลังใหม่อีกครั้ง

 

อ่านข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่

https://tourismproduct.tourismthailand.org/2023/05/09/workation-staycation-work-from-anywhere-unplug-somewhere/

 

#TourismProduct

#MorePassionMadeYourMoreExperience

#NewJourneyMoreExperience

#MeaningfulTravel #SoftPower

#สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในทุกการเดินทาง

Share:

Related articles

Krabi Product Prototype _Travel With Care

เที่ยวกระบี่รูปแบบใหม่ที่จะได้ทั้งดูแลทั้งโลกและกลับมาดูแลหัวใจตัวเองกับ Travel With Care ที่ไม่ได้จะมาเจอแค่แค่ทะเลสวย แต่คือการเดินทางที่ค่อย ๆ เติมพลังทั้งกายและใจ ผ่านวิถีธรรมชาติ และสัมผัสเสน่ห์วัฒนธรรมของชาวกระบี่ที่ผสานทั้งจีน มลายู ไทยที่ถูกถ่ายทอดมาจนถึงปัจจุบัน   เดินทางในแบบ Travel with Care ผ่านสามเส้นทางที่จะชวนคุณ ‘Care’ กระบี่ให้มากขึ้น – หยุดพักกายและใจกับ Self Care ที่พาเราไปเติมพลังท่ามกลางธรรมชาติ และมองพระอาทิตย์ตกกลางทะเล – ร่วมดูแลและอนุรักษ์ธรรมชาติกระบี่กับ Nature Care ที่พาเราไปเจอมุมเขียวชอุ่มและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ – เรียนรู้และสัมผัสวัฒนธรรมกระบี่ผ่าน Culture Care ที่พาไปค้นหาเสน่ห์เรียนรู้ที่มา ทั้ เมืองเก่ากระบี่ เกาะลันตาที่ยังคงวิถีชีวิตไว้อย่างสวยงาม   Self Care – Mindful Journey · Sustainable Escape – Hideaway – Retreat · Sunset Vibes on the Sea – Rebirth and Refuel   Nature Care – Krabi Green Escape at Koh Klang – Sea of Cultures Discover Laem Sak – A Must-Do Activity Awaits in Krabi – Krabi’s Secret Lagoon – Taste of Krabi Culture Care – The Essence of

⛰️🏘️🫖เรียนรู้วัฒนธรรมพื้นบ้าน ผ่านชีวิตคนในชุมชน🫖🏘️⛰️

การท่องเที่ยวโฮมสเตย์ในเดือนสิงหาคมไม่เพียงให้คุณพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ แต่ยังเป็นประตูสู่การเรียนรู้วัฒนธรรมพื้นบ้านจากวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น มาสัมผัสประสบการณ์ที่ช่วยเชื่อมโยงคุณกับมรดกวัฒนธรรมไทยอย่างแท้จริง! ⭐กิจกรรมแนะนำ:  – การทอผ้า: เรียนรู้การทอผ้าทอมือจากชาวบ้านในน่านหรือเชียงราย ซึ่งใช้เทคนิคดั้งเดิมอย่างการย้อมสีจากธรรมชาติ เช่น ใบมะเกลือหรือคราม – ทำอาหารพื้นบ้าน: ร่วมปรุงอาหารเหนือ เช่น น้ำพริกหนุ่ม ข้าวซอย หรือไส้อั่ว กับเจ้าถิ่นที่บ้านแม่กำปอง โดยใช้ส่วนผสมจากสวนหลับ้าน – งานหัตถกรรม: เข้าร่วมเวิร์กช็อปปั้นเซรามิกหรือแกะสลักไม้ที่บ้านผาฮี้ ซึ่งสะท้อนทักษะช่างฝีมือที่สืบทอดกันมา   ⭐ประโยชน์ของการเรียนรู้:  การใช้ชีวิตเคียงข้างชุมชนไม่เพียงช่วยให้คุณเข้าใจวิถีดั้งเดิม เช่น การทำนาแบบโบราณหรือพิธีกรรมท้องถิ่น แต่ยังช่วยอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมและสนับสนุนรายได้ให้เกษตรกรและช่างฝีมืออย่างยั่งยืน   ⭐เคล็ดลับ:  ควรแต่งกายสุภาพและเคารพประเพณี เช่น ถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้านหรือวัด, ขอความยินยอมก่อนถ่ายรูปชาวบ้าน, และเตรียมใจเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ อยากลองสัมผัสวัฒนธรรมชุมชน? วางแผนทริปในเดือนสิงหาคม 2025 และไปเรียนรู้ไปพร้อมกัน โดยผสมผสานกับกิจกรรมกีฬาจาก e-book [https://tourismproduct.tourismthailand.org/2025/07/16/everyday_atheltet-2025/]  เช่น การปั่นจักรยานท่ามกลางทุ่งนาที่บ้านป่าบงเปียง!   🫖🏘️⛰️ Discover local art wisdom through homestay experiences.🫖🏘️⛰️   Staying with local homestays in August is not only a peaceful escape into nature, but also an opportunity to learn about traditional art and cultural wisdom that are deeply rooted in local ways of life. Experience Thailand’s rich heritage firsthand. ⭐Recommended workshops: • Fabric Weaving:

Wellness _ Worth-Life Balance

โครงการ Worth Life Balance การใช้ชีวิตอย่างสมดุลคือหัวใจของการมีสุขภาวะที่ดี สมดุลระหว่างการทำงาน การพักผ่อน ความสนุก และความสงบในใจ ซึ่งทั้งหมดนี้…รอให้คุณสัมผัสได้ในประเทศไทย ดินแดนที่เปิดโอกาสให้คุณได้ปรับสมดุลชีวิตในแบบที่เหมาะกับตัวเอง คู่มือ Worth-Life Balance เล่มนี้ จะพาคุณไปรู้จักกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่น่าค้นหาใน      3 มุมมองของการดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น Nature Healing สำหรับผู้ที่หลงรักธรรมชาติ ป่าเขา และอากาศบริสุทธิ์, Body Wellness สำหรับผู้ที่ต้องการความแข็งแรงและกิจกรรมเพื่อฟื้นฟูร่างกาย, หรือ Soulful Retreat สำหรับผู้ที่มองหาความสงบและสมาธิในใจ ประสบการณ์แห่งการดูแลสุขภาพในเมืองไทยมีหลากหลายไม่รู้จบ และทั้งหมดนี้กำลังรอให้คุณมาค้นพบด้วยตัวเอง   Wellness life is all about finding the right balance—between work, rest, play, and peace. And in Thailand, you can have it all. The kingdom offers endless opportunities to fine-tune your sense of balance, and this guide, Worth-Life Balance, introduces fresh and inspiring wellness experiences from three perspectives: Nature Healing – for those who find love in greenery, mountains, and fresh air; Body Wellness –

🌳🏘️🛣️เส้นทางเที่ยว Slow Life 3 วัน 2 คืน (น่าน – พะเยา – เชียงราย)🛣️🏘️🌳

!  เดือนสิงหาคมเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการท่องเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ เมื่อธรรมชาติของภาคเหนือเต็มไปด้วยสีเขียวและความสงบ มาสำรวจเส้นทาง 3 วัน 2 คืนในน่าน พะเยา และเชียงราย พร้อมแนะนำของฝากเด็ดจากชุมชนที่คุณไม่ควรพลาดในปี 2025   🌄วันที่ 1: น่าน – เริ่มต้นที่เมืองเก่า  🌞 เช้า: เดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงน่าน (ประมาณ 9-10 ชม. ด้วยรถยนต์) เยี่ยมวัดภูมินทร์ที่มีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องกินรี และสำรวจตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยสินค้าพื้นบ้าน 🌞 บ่าย: พักที่โฮมสเตย์ในหมู่บ้านสันติสุข เรียนรู้การทอผ้าจากชาวบ้านและชิมอาหารเหนือ 🌞 เย็น: ชมแสงไฟที่กำแพงเมืองเก่าและพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ เคล็ดลับ ⭐: พกกล้องสำหรับถ่ายรูปและเงินสดสำหรับซื้อของฝาก   🌄วันที่ 2: พะเยา – ธรรมชาติและทะเลสาบ  🌞 เช้า: ขับรถไปพะเยา (ระยะทางประมาณ 150 กม. ใช้เวลา 2 ชม.) กราบพระธาตุลำปางหลวงและเดินเล่นรอบวัด 🌞 บ่าย: พักผ่อนที่ทะเลสาบพะเยา ล่องเรือชมวิวหรือปั่นจักรยานรอบทะเลสาบ (ตาม e-book Everyday Athlete) ->[https://tourismproduct.tourismthailand.org/2025/07/16/everyday_atheltet-2025/] 🌞 เย็น: พักที่โฮมสเตย์ริมทะเลสาบ ลิ้มรสกาแฟท้องถิ่น เคล็ดลับ⭐: ไปช่วงเช้าเพื่อแสงสวยและเตรียมเสื้อกันฝน   🌄วันที่ 3: เชียงราย – ปิดท้ายที่บ้านผาฮี้  🌞 เช้า: ขับรถไปเชียงราย (ระยะทางประมาณ 180 กม. ใช้เวลา 2-3 ชม.) เยี่ยมบ้านผาฮี้ ชมวิวภูเขาสลับซับซ้อนและแวะชิมกาแฟร้านดัง 🌞 บ่าย: ซื้อของฝากจากชุมชนและเดินทางกลับกรุงเทพฯ เคล็ดลับ⭐: เตรียมเงินสดสำหรับตลาดและระวังทางลาดชัน   ของฝากจากชุมชนที่ต้องซื้อกลับบ้าน:  ผ้าทอมือ: ผ้าทอสีสันสดใสจากน่าน ใช้เทคนิคย้อมครามดั้งเดิม เหมาะทำเสื้อหรือของตกแต่งบ้าน เซรามิก: งานปั้นมือจากพะเยา ลวดลายดอกไม้และสัตว์ท้องถิ่น