Songkhla Old Town

เดือนสิงหาคมเป็นช่วงที่ธรรมชาติของประเทศไทยงดงามที่สุด ด้วยฝนที่หล่อเลี้ยงป่าไม้ให้เขียวขจีและอากาศเย็นสบาย การพักผ่อนที่โฮมสเตย์ท่ามกลางธรรมชาติไม่เพียงให้ความสงบ แต่ยังเปิดโอกาสให้คุณสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนอย่างใกล้ชิด มาดู 5 หมู่บ้านโฮมสเตย์ที่ได้รับความนิยมและเหมาะสำหรับการพักผ่อนในปี 2025!   1.บ้านแม่กำปอง, เชียงใหม่🏘️ หมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300 เมตร มีชื่อเสียงจากน้ำตกแม่กำปองที่ไหลเย็นตลอดทั้งปี โฮมสเตย์ส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ที่อบอุ่น อาหารพื้นบ้าน เช่น แกงหน่อไม้และข้าวเหนียวหมูทอด เป็นจุดเด่นที่คุณจะได้ลิ้มลอง ⭐ ไฮไลต์: เดินเทรลชมน้ำตก 3 ชั้น, ชมหมอกยามเช้าจากระเบียงโฮมสเตย์ 📌 กิจกรรมแนะนำ: เรียนรู้การปลูกกาแฟกับชาวบ้าน ⚡ เคล็ดลับ: จองล่วงหน้า 1-2 เดือน และพกเสื้อกันฝนกับรองเท้าทาง่าย   2.บ้านจ่าโบ่, เชียงใหม่🏘️ ตั้งอยู่บนดอยอินทนนท์ หมู่บ้านนี้มีวิวทุ่งนาขั้นบันไดที่สวยงาม โดยเฉพาะในฤดูฝน โฮมสเตย์ให้บริการอาหารพื้นเมืองและมีมุมนั่งชิลล์ท่ามกลางธรรมชาติ ⭐ ไฮไลต์: ชมวิวทุ่งนา 360 องศา, ดื่มกาแฟสดจากไร่ใกล้เคียง 📌 กิจกรรมแนะนำ: เดินป่าชมดอกไม้ป่า ⚡ เคล็ดลับ: ไปช่วงเช้าสำหรับแสงแดดอ่อน ๆ และเตรียมเสื้อกันหนาว   3.บ้านรักไทย, แม่ฮ่องสอน🏘️ หมู่บ้านชาวจีนยูนานที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลสาบและภูเขาสูง บริเวณนี้มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจจากผู้อพยพในอดีต โฮมสเตย์ให้บริการชาและอาหารจีน-ไทย เช่น หมั่นโถวและน้ำชาจีน ⭐ ไฮไลต์: พายเรือชมทะเลสาบ, ชมพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมหมอก 📌 กิจกรรมแนะนำ: เรียนทำชาจากใบชาท้องถิ่น ⚡ เคล็ดลับ: เตรียมเสื้อกันหนาวและถนนอาจลื่น ใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ   4.บ้านป่าบงเปียง, เชียงใหม่🏘️ หมู่บ้านที่ขึ้นชื่อเรื่องนาขั้นบันไดที่ได้รับการยกยองว่าเป็นหนึ่งในสถานที่สวยที่สุดของไทย ฤดูฝนทำให้ทุ่งนาสีเขียวมรกต โฮมสเตย์มักเป็นบ้านดินหรือไม้ไผ่ที่ผสมผสานกับธรรมชาติ ⭐ ไฮไลต์: ชมทุ่งนาในยามเช้า, ถ่ายรูปกับวิวพาโนรามา 📌 กิจกรรมแนะนำ: ร่วมปลูกข้าวกับชาวบ้าน ⚡ เคล็ดลับ: ไปช่วงกรกฎาคม-สิงหาคมและพกกล้องกันน้ำ   5.บ้านผาฮี้, เชียงราย🏘️ หมู่บ้านบนดอยที่มีวิวภูเขาสลับซับซ้อนและร้านกาแฟชื่อดัง ชาวบ้านส่วนใหญ่ปลูกกาแฟและชา โฮมสเตย์ให้บรรยากาศอบอุ่นและเป็นมิตร ⭐ ไฮไลต์:

ช่วงนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการวางแผนท่องเที่ยวแบบช้าๆ และสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนท่ามกลางธรรมชาติที่เขียวชอุ่มของประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TAT) ได้จัดทำ e-book สุดพิเศษ 2 เล่ม เพื่อเป็นคู่มือให้คุณสำรวจประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ผสาน การท่องเที่ยวกับพลังของกีฬาและการผจญภัย มาดูรายละเอียดกันเลย!   Everyday Athlete เข้าถึงได้ที่ https://tourismproduct.tourismthailand.org/2025/07/16/everyday_atheltet-2025/ เล่มนี้เป็นไกด์สำหรับนักท่องเที่ยวสายแอคทีฟ ที่ต้องการผสมผสานการเดินทางกับกิจกรรมกีฬาทุกวัน ครอบคลุมหลากหลายประเภท เช่น: 🥊 มวยไทย : เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิมจากยิมในกรุงเทพฯ หรือที่อยุธยา 🏌️‍♂️ กอล์ฟ : ออกรอบบนสนามกอล์ฟชั้นนำในพื้นที่ท่องเที่ยวอย่างหัวหินหรือเชียงใหม่ 🏄‍♀️ กีฬาทางน้ำ : ดำน้ำที่เกาะช้าง หรือเล่นเวคบอร์ดที่แคนยอน เวคพาร์ค เชียงใหม่ 🚴 ปั่นจักรยาน : ท้าทายเส้นทางสวยงามบนดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ 🧗‍♀️ Adventure : ปีนผาในกระบี่หรือขับ ATV ผจญภัยในพัทยา หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงแนะนำสถานที่ แต่ยังให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการวางแผนการเดินทางอีกด้วย   Event Sport 2025 เข้าถึงได้ที่ https://tourismproduct.tourismthailand.org/2025/07/16/event-sport-2025/ เป็นคู่มือสำหรับงานกีฬาระดับชาติและนานาชาติที่จัดในไทย อาทิ: FIVB Volleyball Women’s World Championship 2025 : อีเวนต์วอลเลย์บอลระดับโลกที่จะจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร MotoGP 2025: การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกระดับตำนานที่บุรีรัมย์ รายการวิ่งมาราธอน: สัมผัสบรรยากาศการวิ่งท่ามกลางเมืองมรดกโลกและธรรมชาติในรายการวิ่งต่างๆ เช่น สุโขทัยมาราธอน และน่านมาราธอน เล่มนี้ยังรวมตารางเวลา , รายชื่อสถานที่จัดงาน, และข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ รวมถึงกิจกรรมเสริม เช่น การเยี่ยมชมร้านอาหารหรือร้านกาแฟใกล้สถานที่แข่งขัน   ทำไมต้องอ่าน? e-book เหล่านี้ช่วยคุณวางแผนทริปที่ผสมผสานการพักผ่อนกับการเข้าร่วมกีฬาหรือผจญภัย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมงานวิ่งมาราธอนที่สุโขทัยหรือปั่นจักรยานขึ้นดอยอินทนนท์ คุณจะได้สัมผัสวิถีท้องถิ่นอย่างลึกซึ้งและสนับสนุนชุมชนไปในตัว อยากสำรวจเพิ่มเติม? คลิกดาวน์โหลด e-book ได้ที่ลิงก์ด้านบน และเตรียมตัวสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยพลังและความทรงจำตลอดทั้งปี!   New TAT e-books release! August is the best month for those who plan to reconnect with nature, explore local life and check out sport

หลังการแสวงบุญหรือเยี่ยมวัดในช่วงเข้าพรรษา การซื้อของฝากจากวัดและเครื่องรางนำโชคเป็นวิธีที่ดีในการเก็บความทรงจำและเสริมสิริมงคล มาดู 4 ไอเทมที่เหมาะสมสำหรับซื้อเป็นของฝากในปี 2025 แทนผ้าไตรหรือเทียนพรรษาที่อาจไม่สะดวกต่อการพกพา!     🧺🧺🧺1. เครื่องรางนำโชค    เหรียญพระพุทธ, ตะกรุด, หรือพระเครื่องที่ผ่านพิธีปลุกเสกจากพระเกจิชื่อดัง ช่วยเสริมดวงและปกป้องภัยอันตราย เหมาะสำหรับคนที่เชื่อเรื่องโชคลาภ   📌สถานที่ซื้อ: วัดมหาธาตุ (อยุธยา), วัดร่องขุ่น (เชียงราย)   🌟เคล็ดลับ: ตรวจสอบความแท้จากวัดและเลือกตามความเชื่อส่วนตัว     🛕🛕🛕2. ของที่ระลึกจากวัด   รูปภาพพระพุทธรูป, พระบูชาขนาดเล็ก, หรือของตกแต่งที่ทำจากไม้แกะสลัก ผลิตโดยชุมชนรอบวัด เหมาะสำหรับตกแต่งบ้านหรือมอบเป็นของขวัญ   📌สถานที่ซื้อ: วัดพระปฐมเจดีย์ (นครปฐม), วัดพระธาตุหริภุญชัย (ลำพูน)   🌟เคล็ดลับ: เลือกขนาดที่พกพาง่ายและมีแพ็คเกจจิ้งสวย     📕📕📕3. สมุดบันทึกธรรมะ   สมุดที่มีปกสวยงามพิมพ์ลายศิลปะไทยหรือคำสอนของพระพุทธเจ้า ภายในมีกระดาษคุณภาพดี เหมาะสำหรับจดบันทึกหรือมอบเป็นของขวัญ   📌สถานที่ซื้อ: วัดพระแก้ว (กรุงเทพฯ), วัดป่าเลไลยก์ (สุพรรณบุรี) 🌟เคล็ดลับ: ซื้อแบบมีกล่องเพื่อเพิ่มมูลค่าเป็นของฝาก     🍃🍃🍃4.ชาสมุนไพรจากวัด   ชาที่ทำจากสมุนไพร เช่น ใบหม่อนหรือขมิ้นชัน ผลิตโดยวัดหรือชุมชนใกล้เคียง รสชาติกลมกล่อมและดีต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ   📌สถานที่ซื้อ: วัดพระบรมธาตุไชยา (สุราษฎร์ธานี), วัดร่องขุ่น (เชียงราย)   🌟เคล็ดลับ: ซื้อแบบบรรจุซองเพื่อพกพาสะดวกและเก็บรักษาง่าย Auspicious Souvenirs and Talisman from Temples   One of the meaningful ways to keep the memories and invite good fortune during the Rain Retreat is buying auspicious souvenirs and lucky charms from temples.  Here are