สังขละบุรี มนต์เสน่ห์แห่งเมืองกาญจน์

สัมผัสวัฒนธรรมชาวมอญ ดินแดนฝั่งตะวันตก “สังขละบุรี” มนต์เสน่ห์แห่งเมืองกาญจน์

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดกาญจนบุรี สถานที่ที่มีเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ ที่คุณต้องนึกถึงคงไม่พ้น “สังขละบุรี” อำเภอหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีชุมชนมอญอาศัยอยู่ในระแวกนั้น และใกล้กับชายแดนพม่า โดยชาวมอญจะใช้วิถีชีวิตแบบเรียบง่าย ผู้คนเป็นมิตร และมีอากาศที่บริสุทธิ์ มาพร้อมกับลมหนาวโชยมาเบา ๆ อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอันเปรียบเสมือนแห่งวัฒนธรรมอีกมากมาย

 

“สังขละบุรี” กับ 3 สถานที่แห่งวัฒนธรรมที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อได้ไปเยือน

 

1. สะพานไม้อุตตมานุสรณ์  หรือที่เรียกกันว่า สะพานมอญ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศ และเป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสะพานไม้อูเบ็งในประเทศพม่า มีความยาวประมาณ 850 เมตร โดยมีหลวงพ่ออุตตมะเป็นผู้ดำเนินการสร้าง โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้คนไทย กะเหรี่ยงและมอญได้สัญจรไปมาหาสู่กัน เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ของคนทั้งสามกลุ่ม ทำให้สะพานมอญนั้น กลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของสังขละบุรี

 

2. วัดวังก์วิเวการามเดิม หรือวัดจมน้ำ หลวงพ่ออุตตมะและชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2496 ในบริเวณที่เรียกว่าสามประสบ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำ 3 สายไหลมาบรรจบกัน ประกอบด้วย แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 2527 ได้เกิดเหตุการณ์การก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม ทำให้น้ำท่วมตัวอำเภอสังขละบุรีเก่ารวมทั้งวัดนี้ด้วย หลวงพ่อจึงได้ย้ายมาสร้างวัดมาอยู่บนเนินเขา ส่วนวัดเดิมได้จมอยู่ใต้น้ำมานานนับสิบปี จึงถือได้ว่าเป็นสถานที่ Unseen Thailand เพราะมีความแปลกที่มีซากโบราณสถานจมอยู่ใต้น้ำ จนหลายคนเรียกกันว่าเมืองบาดาล 

 

นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในช่วงฤดูร้อนถึงต้นฤดูฝน ตั้งแต่ประมาณเดือนมีนาคม – มิถุนายน เป็นช่วงหน้าแล้ง เพราะน้ำจะลด ทำให้สามารถเดินเข้าไปเยี่ยมชมโบสถ์เก่าได้ ส่วนคนที่มาเที่ยวช่วงปลายฝนจนถึงฤดูหนาว ตั้งแต่ประมาณกันยายน – มกราคม อาจจะได้เห็นแค่บางส่วนของตัวโบสถ์ที่โผล่พ้นน้ำ หรือบางทีก็จมน้ำเป็นเมืองบาดาล จะเห็นก็เพียงแต่ยอดหอระฆังเดิมเท่านั้นที่สูงพ้นน้ำ

 

3. ด่านเจดีย์สามองค์ เขตสิ้นสุดชายแดนตะวันตกของประเทศไทย กั้นพรมแดนระหว่างไทยและพม่านั่นเอง โดยสมัยก่อนที่แห่งนี้เคยเป็นช่องทางเดินทัพที่สำคัญในการทำสงครามไทย – พม่า เดิมเรียกกันว่า “หินสามกอง” เนื่องจากชาวบ้านผ่านมาบริเวณนี้ ก็จะนำหินมากองไว้เพื่อสักการะเป็นสิริมงคลในการเดินทาง นานวันกองหินก็ได้มีขนาดใหญ่ขึ้นและต่อมาใน พ.ศ. 2472 พระศรีสุวรรณคีรี เจ้าเมืองสังขละบุรี ได้นำชาวบ้านมาก่อสร้างเจดีย์จากหินกองใหญ่ ซึ่งเป็นเจดีย์สามองค์ในปัจจุบัน

 

และนอกจากสถานที่แห่งวัฒนธรรมที่กล่าวไปแล้ว “สังขละบุรี” ยังมีเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมอีกมากมายที่คุณไม่ควรพลาด เช่น ตักบาตรยามเช้าชมวิถีชีวิตชาวมอญ ล่องเรือไหว้พระ และชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ กินอาหารท้องถิ่น และชมหมอกในยามเช้า และชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็นที่สะพานมอญ เป็นต้น

Share:

บทความที่เกี่ยวข้อง

Journey เจอนั่น ที่ลำปาง

E-book : ดูออนไลน์ (TH) Highlight  ตลาดเก๊าจาวคลาสสิคยามเช้า สถานีรถไฟนครลำปาง มิวเซียมลำปาง พิพิธภั